4 วิธีเลือกไม้แบดมินตันให้เหมาะกับมือคุณ

การเลือกไม้แบดมินตันที่เหมาะสมเป็นสิ่งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นสำหรับการเล่นพัฒนาฝีมือและการเล่นเพื่อความสนุกสนาน ไม้แบดที่ใช้ควรเหมาะกับสไตล์การเล่นและระดับทักษะของคุณ ซึ่งปัจจัยสำคัญที่ควรพิจารณาในการเลือกไม้แบดมินตัน มีดังนี้:

 

1. น้ำหนักของไม้แบดมินตัน

น้ำหนักของไม้แบดมินตัน มักจะระบุด้วยตัว “U” ซึ่งมีผลอย่างมากต่อการใช้งาน ยิ่งตัวเลขหน้าตัว “U” ต่ำ ไม้ก็จะยิ่งหนัก โดยน้ำหนักมาตรฐานอยู่ระหว่าง 80–100 กรัม

  • 4U: 80–84 กรัม
  • 3U: 85–89 กรัม
  • 2U: 90–94 กรัม
  • 1U: 95–100 กรัม

น้ำหนักที่เหมาะสมสำหรับผู้เล่น:

  • ผู้เล่นระดับเริ่มต้น: ไม้ที่มีน้ำหนักเบา (85–89 กรัม หรือ 3U) น้ำหนักประมาณนี้จะเป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับผู้เล่นที่กำลังหัดเล่น เพราะจะช่วยให้คุณควบคุมไม้แบดได้ง่าย รวมถึงลดการบาดเจ็บที่ข้อมือและไหล่
  • ผู้เล่นเดี่ยว: ไม้ที่หนักขึ้นเล็กน้อย (3U) จะช่วยเพิ่มความเสถียรในการตี ซึ่งสำคัญมากสำหรับการตีโต้แบบ rally หรือ เกมส์ที่ตียาว ๆ
  • ผู้เล่นคู่: ไม้เบาพิเศษ (4U) เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ต้องการเพิ่มการตอบสนองในการตีให้รวดเร็วขึ้นรวมถึงช่วยให้คุณตอบสนองต่อลูกตบของฝ่ายตรงข้ามได้อย่างรวดเร็ว

 

2. จุดศูนย์ถ่วงของไม้

จุดศูนย์ถ่วงของไม้แบดคือตำแหน่งที่น้ำหนักของไม้กระจายอยู่ ซึ่งส่งผลต่อสไตล์การเล่น คุณสามารถทดสอบจุดศูนย์ถ่วงได้ด้วยตัวเองง่าย ๆ โดยวางนิ้วของคุณตรงใต้หัวไม้และดูว่าไม้เอียงไปทางไหน

  • จุดศูนย์ถ่วง หนักที่หัวไม้: เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ชอบตบลูกจากหลังสนาม ไม้ประเภทนี้ช่วยเพิ่มพลังในการตี รวมถึงเหมาะกับการเล่นเกมส์แบบ rally
  • จุดศูนย์ถ่วง น้ำหนักเบาที่หัวไม้: ไม้ที่มีน้ำหนักเบาตรงหัวไม้จะช่วยให้ควบคุมได้ง่ายและช่วยให้คุณตอบสนองได้รวดเร็ว เหมาะกับผู้เล่นคู่ ที่ต้องการการเคลื่อนไหวที่ว่องไวและเพิ่ม Performance ที่หน้าเน็ต
  • จุดศูนย์ถ่วงเท่ากัน: ให้ความผสมผสานระหว่างความทรงพลังและการควบคุม เหมาะสำหรับผู้เล่นที่ไม่แน่ใจในสไตล์การเล่นของตนเองหรือผู้เล่นแบบเริ่มต้นที่กำลังสำรวจความชอบของตนเอง

 

3. ความตึงของเอ็นไม้แบดมินตัน

ความตึงของเอ็นส่งผลต่อประสิทธิภาพในการเล่น คุณสามารถทดสอบความตึงของเอ็นได้โดยกดฝ่ามือลงบนเอ็นและดูว่ามันยุบลงมากแค่ไหน โดยทั่วไปการยุบประมาณ 1 มม. ถือว่าเหมาะสม

  • ผู้เล่นเริ่มต้น: ความตึงที่ 22–23 ปอนด์ถือว่าเหมาะสำหรับผู้เล่นในระดับนี้
  • ผู้เล่นแบบ Advance: ความตึงที่มากขึ้นจะให้การควบคุมที่ดีกว่า แต่ต้องใช้เทคนิคที่แม่นยำเพื่อป้องกันการตีเสีย
  • การปรับเปลี่ยนตามสภาพภูมิอากาศ: ควรสังเกตว่าสถานที่ที่เราตีมีสภาพอากาศเป็นแบบไหน หากตีในที่ที่มีอุณหภูมิสูง อาจต้องการเอ็นที่มีความตึงมากขึ้นเนื่องจากเอ็นจะขยายตัวในความร้อน

 

4. ด้ามจับไม้แบดมินตัน

ด้ามจับเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยเพิ่มความสะดวกสบายและการควบคุมในการเล่น ควรพิจารณาทั้งประเภทและขนาดของด้ามจับ

  • ประเภทของด้ามจับ:
    • ด้ามผ้าขนหนู: นุ่มและดูดซับเหงื่อได้ดี แต่ต้องเปลี่ยนบ่อยเพื่อป้องกันแบคทีเรีย
    • ด้ามสังเคราะห์: ทนทานและทำความสะอาดง่าย แต่ดูดซับเหงื่อได้ไม่ดี
  • ขนาดของด้ามจับ: ด้ามจับขนาดใหญ่ช่วยเพิ่มความกระชับในการจับและพลังในการตี ส่วนด้ามจับขนาดเล็กช่วยเพิ่มความคล่องตัว เหมาะสำหรับการเล่นที่ต้องการความพลิกแพลง

 

แบรนด์ไม้แบดมินตันยอดนิยม

แบรนด์ที่ได้รับความนิยม ได้แก่:

  • Yonex
  • KAWASAKI
  • Victor
  • Felet
  • Li-Ning