3 สาเหตุที่นักวิ่งเป็นตะคริว ต้องรักษาและป้องกันอย่างไร?
การดูแลสุขภาพเท้าเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับนักวิ่ง ตะคริวที่เท้าอาจเป็นสัญญาณบอกว่ามีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นที่อุ้งเท้า (Arch of foot) หรือนิ้วโป้ง ซึ่งสาเหตุหลักเป็นเพราะความล้าของกล้ามเนื้อ การประสานงานระหว่างกล้ามเนื้อและสมองช้าลง เลือดนำอ็อกซิเจนมาเลี้ยงไม่ทัน ระบบประสาทควบคุมการทำงานของกล้ามเนื้อได้น้อยลง จนเกิดเป็นตะคริว ซึ่งมีสาเหตุมาจาก 3 สิ่งหลัก ๆ ดังนี้
นักวิ่งเป็นตะคริว เพราะร่างกายขาดน้ำ
การจิบน้ำระหว่างการออกกำลังกาย ดื่มน้ำมาก ๆ ระหว่างวัน หรือเพิ่มอิเล็กโทรไลต์ให้แก่ร่างกาย จะช่วยให้ชุ่มชื้นและฟื้นฟูกล้ามเนื้อให้แก่ร่างกาย ป้องกันการเป็นตะคริว ตามหาอิเล็กโทรไลต์ได้ในรูปแบบของแคปซูลและเครื่องดื่ม
นักวิ่งเป็นตะคริว เพราะซ้อมหนักเกินไป
ข้อนี้นักวิ่งจะต้องถามตัวเองว่าเราเทรนร่างกายตัวเองหนักเกินไปรึเปล่า มีเวลาให้ร่างกายของเราได้ปรับตัวตามความเข้มข้นของการฝึกซ้อมหรือไม่ ซึ่งในทางปฏิบัติที่ควรจะเป็นนั้น นักวิ่งควรค่อย ๆ เพิ่มระยะทางการวิ่งจากเดิมอาทิตย์ละไม่เกิน 10% เพื่อให้ร่างกายค่อย ๆ ปรับตัวในการเพิ่มความเข้มข้นในการฝึกซ้อม
นักวิ่งเป็นตะคริว เพราะการไหลเวียนโลหิตไม่ดี
อีกหนึ่งปัจจัยที่นักวิ่งมองข้ามไปก็คือ รองเท้าวิ่ง นั่นเอง หรือแม้แต่รองเท้าผ้าใบ รองเท้าคัชชูที่เราใส่ในชีวิตประจำวัน จะต้องไม่คับจนบีบหรือบล็อคการไหลเวียนเลือด สำหรับรองเท้าทั่วไป เราควรเปลี่ยนทุก ๆ 500 – 800 กิโลเมตร และรองเท้าวิ่ง เราควรเปลี่ยนทุก ๆ 400 – 900 กิโลเมตร อีกหนึ่งวิธีที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการหมุนเวียนเลือดคือการยืดกล้ามเนื้อ เน้นบริเวณน่องและเท้าเป็นพิเศษ เมื่อเลือดไหลเวียนคล่องตัว อ็อกซิเจนก็จะไม่ขาด และไม่เป็นตะคริวนั่นเอง
เทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่นักวิ่งเอากลับไปลองทำได้อีกคือ
การนวดเท้าคลายกล้ามเนื้อ ทั้งการใช้มือและใช้โฟมโรลเลอร์กลิ้ง ตั้งแต่กล้ามเนื้อน่องจนถึงอุ้งเท้า แช่เท้าในน้ำอุ่น หรือใช้แผ่นประคบร้อน ก็สามารถช่วยให้การไหลเวียนเลือดดีขึ้นเช่นกัน