เสื้อฟุตบอลตัวโปรดหรือตัวเก่ง ใคร ๆ ก็คงอยากรักษาไว้ให้สวมใส่ได้นานที่สุด บางคนอาจจะถึงขั้นไม่กล้าใส่เสื้อตัวโปรด เพราะไม่อยากให้เก่าและเสียหาย อย่างไรก็ตามบทความนี้จะพาคุณไปรู้จักกับวิธีดูแลและทำความสะอาดเสื้อฟุตบอลตัวโปรด ให้อยู่กับคุณไปอีกนานแสนนาน

ขั้นตอนที่ 1: แยกสีเสื้อ

เสื้อฟุตบอลควรถูกซักแยกตามสีเสมอ อย่าซักเสื้อสีขาวรวมกับเสื้อผ้าสีเข้ม เช่น ถุงเท้าสีแดง เพราะอาจทำให้สีติดและเสื้อซีดลงได้ เพื่อรักษาสภาพเสื้อ ควรซักแยกตามสีหรือซักแยกเดี่ยวทั้งหมด

ขั้นตอนที่ 2: กลับด้านเสื้อก่อนซัก

เพื่อปกป้องโลโก้ทีม ชื่อทีม หรือสปอนเซอร์ที่ถูกติดอยู่กับเสื้อ ควรกลับด้านเสื้อก่อนซัก วิธีง่ายๆ นี้จะช่วยป้องกันการเสื่อมสภาพหรือการหลุดลอกของรายละเอียดต่าง ๆ ที่ถูกติดลงบนเสื้อในระหว่างการซัก

ขั้นตอนที่ 3: อ่านป้ายคำแนะนำ

หลายคนอาจคิดว่าการซักในน้ำร้อนจะทำให้เสื้อที่ชุ่มเหงื่อสะอาดขึ้น แต่อย่าลืมตรวจสอบป้ายคำแนะนำก่อน เพราะอุณหภูมิสูงอาจทำลายเนื้อผ้าได้ หากไม่แน่ใจ ให้ซักมือหรือซักในเครื่องที่อุณหภูมิต่ำ เพื่อให้เสื้อของคุณยังคงอยู่ในสภาพดี

ขั้นตอนที่ 4: กำจัดคราบที่ฝังแน่น

การเล่นฟุตบอลอาจทิ้งคราบหญ้า โคลน และเหงื่อไว้บนเสื้อ หากคุณเจอคราบที่ซักไม่ออก ควรใช้ผลิตภัณฑ์กำจัดคราบที่เชื่อถือได้ และควรทดสอบกับบริเวณที่มองไม่เห็นของเสื้อก่อนใช้งานเต็มที่ เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหาย

ขั้นตอนที่ 5: ตากเสื้อให้แห้งตามธรรมชาติ

ควรหลีกเลี่ยงการอบเสื้อในเครื่องอบผ้า เพราะความร้อนอาจทำให้เสื้อหดหรือเสียหายได้ ควรตากเสื้อให้แห้งในที่อากาศถ่ายเทสะดวก หรือในร่มตามความสะดวก

วิธีซักเสื้อฟุตบอลด้วยมือ

หากต้องการความระมัดระวังเป็นพิเศษ คุณสามารถซักเสื้อฟุตบอลด้วยมือ โดยทำตามขั้นตอนดังนี้:

1. กลับด้านเสื้อด้านในออก
2. แช่เสื้อในน้ำอุ่นผสมกับผงซักฟอกที่ปลอดภัยต่อสี ประมาณ 10-15 นาที
3. ล้างเสื้อด้วยน้ำเย็นสะอาด
4. ตากเสื้อให้แห้งตามธรรมชาติ

วิธีกำจัดคราบออกจากเสื้อฟุตบอล

สำหรับคราบเหงื่อและกลิ่นไม่พึงประสงค์ ลองใส่น้ำส้มสายชูขาวลงในเครื่องซักผ้าพร้อมกับผงซักฟอกตามปกติ น้ำส้มสายชูจะช่วยขจัดคราบที่ฝังแน่นและกลิ่น โดยไม่ทิ้งกลิ่นน้ำส้มสายชูไว้ สำหรับคราบโคลนหรือหญ้า ควรแช่เสื้อก่อนซักโดยใช้ผลิตภัณฑ์แช่ล้างตามคำแนะนำบนฉลาก